สิว ไม่อยากทายา ไม่อยากหาหมอ ซื้อยาทานเอง เลือกยาตัวไหน มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

หมวดสิว

9 พฤษภาคม 2005


กลุ่มยารับประทานรักษาสิว

ยารับประทานในการรักษาสิวต้องมีสรรพคุณในการยับยั้งสาเหตุการเกิดสิว คือ จากฮอร์โมน หน้ามัน ไขมันอุดตันท่อไขมัน ผิวแพ้ และการอักเสบติดเชื้อสิว ดังนั้นกลุ่มยาก็จัดแบ่งออกตามหน้าที่ดังนี้
1. ยาที่มีฤทธิ์ลดการทำงานของต่อมไขมัน Sebaceous Gland ให้ผลิตไขมันลดลง หน้าไม่มัน ก็ทำให้ป้องกันการเกิดสิวได้ ได้แก่ 
      1.1 ยาคุมกำเนิด กลุ่มยาคุมกำเนิดจะมีส่วนประกอบของฮอร์โมน Progesterone เฉพาะชนิดที่มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย อันเป็นสาเหตุที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามาก เมื่อทำให้ไขมันนี้ทำงานลดลง หน้าก็มันลดลง โอกาสเกิดการอุดตัน ทำให้เกิดสิวก็ลดลง
ข้อควรระวัง
-ผู้ชายไม่ควรรับประทาน เพราะ อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง และนมโต แบบผู้หญิงได้ แม้จะหยุดยา
– ผู้หญิง อาจมีปัญหากับรอบเดือนคลาดเคลื่อนได้ ถ้ามีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมได้สูงกว่าคนปกติ
      1.2 ยายับยั้งฮอร์โมนเพศชาย อาทิ spinolactoneปัจจุบันไม่นิยมกันแล้ว เนื่องจากเห็นผลได้ช้า โดยสิวจะเริ่มยุบภายใน 2-3 เดือนแรก หน้ามันค่อยๆลดลง
ข้อควรระวัง
– ผู้ชายไม่ควรรับประทาน เพราะ อาจทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง และนมโต แบบผู้หญิงได้
– ผู้หญิงอาจะมีน้ำหนักตัวเพิ่ม และเป็นฝ้าได้ง่าย
 

1.3 ยากลุ่มวิตามินเอ (Retionoids ) ก็คือ Roaccutane,Acnotin,Isotane ,Isotretinoin เป็นยาที่มีประสิทธิภาพมาก ในการออกฤทธิ์ลดขนาดและการผลิตไขมัน ของต่อมไขมัน ลดการหนาตัวของผิวหน้งบริเวณรูขุมขน ทำให้ลดการเกิดการอักเสบ ของเชื้อสิว P.acnes จึงทำให้หน้ามันลดลง รักษาได้ทั้งสิวอุดตัน และสิวอักเสบ ยากลุ่มนี้เป็นที่นิยม แต่ก็มีผลข้างเคียงมาก
ข้อควรระวัง

  • ริมฝีปากแห้ง คอแห้ง
  • จมูกและตาแห้ง
  • ผิวหน้าแห้งตึง
  • สิวอาจเห่อได้ เมื่อรับประทานยาในสัปดาห์แรก
  • ทำให้ทารกในครรภ์พิการ หรือ แท้งได้ ดังนั้นจะต้องหยุดยาจนครบ 1 เดือนก่อน จึงจะตั้งครรภ์ได้
  • ไม่แนะนำให้บริจาคเลือดขณะรับประทานยา กลุ่ม Retinoids
  • มีอาการซึมเศร้าได้ หลังหยุดยาทันที แต่อัตราการเกิดน้อย ถ้าอยู่ในความดูแลของแพทย์
  • เมื่อรับประทานยาเกิน 6 เดือน ควรตรวจเลือด และร่างกายเกี่ยวกับการทำงานของตับ ระดับไขมันในเลือด เพราะอาจจะทำให้ระดับ SGOT,SGPT และ Triglyceride สูงขึ้นจากปกติได้

2. ยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อสิว P.acnes 
      2.1 ยาปฏิชีวนะ(Antibiotics) มีใช้หลายตัว อาจอยู่ในรูปโลชั่น ครีม หรือยารับประทานที่ใช้ในการกำจัดเชื้อสิว P.acne ที่ใช้กันบ่อยได้แก่
2.1 Tetracycline มักให้ในรูปรับประทาน วันละ 2-4 แคบซูล
2.2 Doxycycline ยานี้มักจะนิยมใช้ เพราะราคาไม่แพง และได้ผลดี มักให้ในรูปรับประทาน วันละ1-2 แคบซูล
2.3 Minocycline ยานี้ราคาแพง และได้ผลดี สะดวกเพราะ รับประทาน วันละ 1 แคบซูล
2.4 Erythromycin-มีทั้งในรูปของครีมทาสิว และยารับประทาน วันละ2-4 คบซูล
2.5 Clindamycin-มีทั้งในรูปของครีมทาสิว และยารับประทาน วันละ1-2 แคบซูล
2.6 Co-trimoxazole-มักให้ในรูปรับประทานวันละ 2-4 เม็ด มักใช้รักษาสิวที่เกิดจากพวกแกรมลบ หรือ แบคทีเรียพวกไม่ใช้ออกซิเจน
ข้อควรระวัง
– ถ้าทานไม่ครบตามกำหนด มีโอกาสดื้อยาได้
– อาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาการท้องร่วง
– มีอาการบวมบริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนัก รวมทั้งอาจเกิดแผล มีอาการคัน หรือมีตกขาว
– มีโอกาสแพ้ยาได้

Related