รูขุมขนกว้าง (Large Pores) ทำอย่างไร ให้รูขุมขนกระชับ ปรับผิวให้เรียบเนียน

หมวดสิว

2 กุมภาพันธ์ 2012


สาเหตุของรูขุมขนกว้าง

รูขุมขน คือรูของผิวหนังที่ให้ขนงอกออกมา ปกติท่อที่เปิดตามผิวพรรณทั่วไป จะมี 2 ประเภทใหญ่ๆ ก็คือ ท่อเปิดต่อมเหงื่อ และท่อเปิดรูขุมขน
รูขุมขนกว้าง จะถือว่าเป็นปัญหาหรือไม่ใช่ปัญหาก็ได้ เนื่องจากไม่ใช่โรคทางผิวหนังและก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด ยกเว้นเรื่องความสวยงาม เพราะคนที่มีรูขุมขนกว้าง มักจะมีหน้ามัน และมีโอกาสมีสิวเสี้ยนได้ง่ายกว่าคนที่ไม่มีปัญหาดังกล่าว ซึ่งรูขุมขน จะมีขนาดโตมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับ
1. อายุ เมื่ออายุเกิน 20 ปีขึ้นไปรูขุมขนมีโอกาสจะโตมากขึ้นตามธรรมชาติ
2. ลักษณะผิว ในกรณีที่มีผิวหน้ามันมาก โอกาสจะมีรูขุมขนกว้างมากขึ้น จะเกิดขึ้นเร็วและโตกว่าคนที่มีผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง
แนวทางการป้องกันรูขุมขนกว้าง
พยายามลดความมันบนใบหน้า เพื่อเป็นการป้องกัน มีได้หลายๆ วิธีดังนี้
1. การล้างหน้าบ่อยๆ
2 เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวมัน ซึ่งมักจะได้แก่ สบู่ล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้า
3 . การทาโลชั่นลดความมัน หรือเจลควบคุมความมัน
4. การรับประทานยากลุ่มเรตินอยด์ กรณีที่ผิวหน้ามันมากๆ และได้ปฏิบัติในข้อ 1.1-1.3 แล้วไม่ดีขึ้น ได้แก่ยา roaccutane,Isotretinoin แต่ปัจจุบันไม่ค่อยแนะนำเพราะมีผลต่อตับ ระดับไขมันในเลือด และทารกในครรภ์ได้

การรักษารูขุมขนกว้าง

1 การทำไอออนโต โดยใช้ยากลุ่มวิตามินเอ,hyaluronic acid,aloe vera
2 การทาครีมที่ผสมด้วยกรดผลไม้อ่อนๆ เช่น AHA,BHA เป็นประจำ
3 การกรอผิวหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion)
4 การกรอผิวหน้าด้วย Laser ( Laser Resufacement)
5 การทำ Photorejuvenation ด้วยเครื่อง IPL (Intense Pulse Light)
6 การทำ Skin Needling: จัดเป็นอีกเทคนิคในการรักษารูขุมขนกว้าง โดยเริ่มมีการนำมารักษาในเมืองไทย ประมาณ ค.ศ.2006 โดยพบได้ผลดีมากกว่าแบบเดิมๆ หลักการทำโดยการใช้ลูกกลิ้งที่มีเข็มเล็กๆ ติดที่ปลาย กลิ้งไปบนใบหน้า ทำให้เกิดรูเล็กๆ จำนวนมากในชั้นหนังแท้ แล้วให้ร่างกายทำการซ่อมแซมเนื้อเยื่อเอง ทั้งการสร้างคอลลาเจนใหม่ และการเรียงตัวของเซลล์ จึงทำให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนดีขึ้นได้ เพียงแต่ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีให้บริการ เนื่องจากอย. ไม่อนุญาตให้ดำเนินการได้
การรักษารูขุมขนกว้าง ตั้งแต่วิธีที่ 1-6  ปัจจุบัน ถือว่าได้ผลน้อย และต้องทำหลายครั้ง ยังไม่ถือว่าเป็นการรักษาที่ได้มาตรฐานสากล

7 Fractional Laser : ถือเป็นการรักษารูขุมขนกว้าง ด้วยเลเซอร์ กลุ่ม Non-ablative Laser โดยเริ่มมีการนำมารักษาปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ในปี ค.ศ. 2004 และได้การรับรองจาก FDA จากอเมริกา ในปี ค.ศ. 2006 ว่านอกจากจะสามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ ตลอดจนรอยหลุมสิว ผิวหน้าไม่เรียบ ให้มีสภาพกลับมาดีขึ้น อย่างได้ผลชัดเจน แล้ว ยังใช้รักษารูขุมขนกว้าง ให้กระชับได้อีก โดยใช้หลักการรักษาแบบนี้ จะลอกผิวด้วยเลเซอร์ด้วยเทคนิค Micro-Laser Peel จึงเลือกระดับความลึกของการลอกหน้าได้ตามสภาพผิวหน้าและสีผิวของคนไข้ ตั้งแต่ 1/10มิลลิเมตร –2 มิลลิเมตร :ซึ่งถ้าใช้พลังงานต่ำ ก็ได้ผลน้อยและช้า จึงมักจะใช้พลังงานสูง เพราะได้ผลดีและเร็วแต่ผลข้างเคียง เช่น รอยดำ รอยแดง ซึ่งคนไข้ต้องยอมรับ และต้องมีการพักหน้าหลังทำ 4-5 วันและต้องเลี่ยงแดดหลังทำประมาณ 2 อาทิตย์
ส่วนเลเซอร์ที่ใช้หลักการรักษาแบบนี้ ก็ได้แก่ Fraxel,Fine Scan 1550 ซึ่งเลเซอร์ทั้งสองตัวนี้ ปัจจุบันถือว่าเป็น เลเซอร์ที่นิยมนำมารักษาเรื่องรูขุมขนกว้างมากที่สุด เพราะได้ผลดีมากกว่า 60-80% โดยเฉพาะ Fine Scan 1550 จัดเป็นเลเซอร์สำหรับผิวคนไทย หรือคนเอเซีย โดยเฉพาะ อ่านบทความเรื่อง Fine Scan 1550
8  Frctional RF-non needle(E-Matrix)   : จัด เป็นนวัตกรรมล่าสุดของปี 2012 ในการแก้ไขปัญหารูขุมขนกว้าง  เพราะถือว่าได้ผลไม่แพ้ Fractional laser  Fractional Laser เพราะนอกจากจะทำให้รูขุมขนกระชับแลัว ยังลอกผิวด้านบน จากรอยด่างดำให้เนียนใส ขึ้นได้ด้วย  แต่มีข้อจะผลข้างเคียงหลังทำมากกว่า Fractional Laser ตรงที่หลังทำ ผิวหน้าอาจจะมีรอยดำเป็นตารางๆ และต้องพักฟื้นหลังทำ 5-7 วัน เพื่อให้รอยดำลอกออก จัดเป็นการแก้ปัญหารูขุมขนกว้างที่ได้ผลไว แต่ไม่เหมาะกับคนสีผิวคล้ำ หรือต้องออกแดดบ่อยๆ

Related