Finasteride : ยารับประทาน เพื่อหยุดผมร่วง สร้างผมใหม่ แก้ไขศีรษะล้าน ให้กลับมาดกดำ

เส้นผม

26 เมษายน 2004


Finasteride คือยาอะไร

-ปัญหาศรีษะล้าน มีสาเหตุการเกิดได้หลายอย่าง แต่สาเหตุใหญ่ๆที่พบในปัจจุบัน คือปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านจากปัญหาฮอร์โมนเพศ ชื่อ Dihydrotesterone(DHT) สูงกว่าปกติ แล้วไปทำให้รบกวนการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ เส้นผมมีขนาดเล็กลง และวงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง อัตราผมร่วง > ผมขึ้นใหม่ ทำให้ผมค่อยๆบางลง จนดูโล่งเตียน นอกจากนี้ยังทำให้ ปริมาณผมใหม่ งอกได้ไม่เป็นปกติ ทั้งจำนวนและขนาดที่เล็กลง
Finasteride (Propecia) เป็นสารสังเคราะห์ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์ 5-Alpha reductase   ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชาย testosterone เป็น DHT จึงทำให้ระดับ DHT ลดลงในกระแสโลหิต ยับยั้งอัตราการทำลายเส้นผม ผมจึงหยุดร่วง และดกดำได้ดังเดิม  โดยได้รับการยอมรับจาก FDA ของอเมริกาและไทย ว่าช่วยลดปัญหาผมร่วงได้จริง เห็นผลภายใน 3-6 เดือน

ข้อควรระวัง

ข้อควรระวังและผลงานวิจัยที่ได้จากการรับประทานยา Finasteride (Propecia)
1. เอนไซม์ของตับผิดปกติได้ (Abnormal SGPT/SGOT) 
2. รับประทานยาเกิน 1 ปี พบว่า สมรรถภาพทางเพศลดลง 3.7 % เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทาน ซึ่งเกิดได้ ประมาณ 2.1%  ดังนั้นจึงถือว่ามีผลข้างเคียงน้อยมาก หรือไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
3. ทำให้ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก มีการคลาดเคลื่อนได้ โดยพบว่าจะทำให้ระดับ PSA level ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมะเร็งต่อมลูกหมากอาจจะมีค่าต่ำกว่าความเป็นจริงได้ 50%  ดังนั้นก็ควรจะตรวจเช็คเป็นประจำทุกปี สำหรับคนที่รับประทานยาตัวนี้ โดยเฉพาะเมื่ออายุเกิน 50 ปี
4. ยา Finasteride ไม่มีผลต่อจำนวนเชื้ออสุจิ สามารถจะมีบุตรได้ปกติ แม้ในช่วงที่รับประทานยาอยู่ หรือไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ เพราะยา Finasteride จะไม่ผ่านทางน้ำอสุจิไปยังภรรยา มีเพียงส่วนน้อยมากที่มีผลต่อปริมาณน้ำเชื้ออสุจิ
5. ยา Finasteride ไม่่มีผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชาย แต่ถ้าในระหว่างที่รับประทาน ยา Finasteride ถ้าเกิดมีปัญหาพบก้อนในหน้าอก ผิดปกติ ก็ควรต้องพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเช่นกัน

ข้อห้ามใช้

ยา Finasterideไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ หรือเตรียมตั้งครรภ์ เพราะยานี้จะทำให้เกิดความผิดปกติ หรือพัฒนาการของอวัยวะเพศของทารกได้ ส่วนการเลือกใช้ยาตัวไหนในการรักษาผมร่วงจาก DHT สูง แนะนำให้พบแพทย์ด้านเส้นผม เพื่อปรึกษาข้อดี-ข้อเสีย และการเลือกใช้

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นจะเห็นว่า การรักษาผมร่วง ควรจะรักษาแบบผสมผสาน ทั้งการใช้ยารับประทานแก้สาเหตุของผมร่วง ในรูปแบบของยารับประทาน (Finasteride )  ควบคู่กับการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาดกดำมากขึ้น ด้วยใช้ยาทา จำพวก Minoxidil ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มจำนวนเส้นผม  การรับประทานวิตามินสำหรับบำรุงเส้นผม หรืออาจจะเสริมด้วยการทำเลเซอร์ปลูกผม (Low Level Laser Therapy:HAIRMAX) เพื่อให้ออกซิเจนกับเส้นผม หรือการทำเมโสปลูกผม(Mesotherapy)  จึงจะทำให้ผลการรักษาครอบคลุมครบวงจร และควรจะทำการรักษาต่อเนื่อง และพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมเท่านั้น ไม่ควรจะซื้อยามาทำการรักษาเอง เพราะการรักษาอาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ถ้าพบแพทย์สม่ำเสมอ ยังสามารถจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที

Related