เริม ( Herpes Simplex ) ตุ่มน้ำพองใส เริ่มเป็นเมื่อไหร่ ทำใจเลยว่า ไม่หายขาด

ผิวหนัง

26 กรกฎาคม 2005


เริม (Herpes) คืออาการติดเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes Simplex Virus) โดยเชื้อไวรัสเริมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่

  • เชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 1 (Herpes Simplex Virus type 1: HSV-1) ก่อให้เกิดอาการ เริมที่ปาก (Herpes Orolabialis)
  • เชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ ชนิดที่ 2 (Herpes Simplex Virus type 2: HSV-2) ก่อให้เกิดเริมที่อวัยวะเพศ (Herpes Genitalis)
    การติดต่อ
    – เริมที่ปาก ติดต่อ โดยการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อ หรือ การใช้ภาชนะอาหารที่ไม่สะอาดเพียงพอร่วมกับผู้ที่มีเชื้อเริม และไม่มีอาการให้เห็นขณะที่มีการติดเชื้อ โดยพบว่าในน้ำลายของผู้ที่มีเชื้อเริมที่ไม่ปรากฏตุ่มน้ำให้สังเกตเห็น สามารถติดต่อได้ ถึงร้อยละ 5 ในผู้ใหญ่ และร้อยละ 20 ในเด็ก ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะป้องกัน
    – เริมที่อวัยวะเพศ ติดต่อ โดยการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อ โดยทางเพศสัมพันธ์ ไม่ค่อยพบว่าติดต่อโดยวิธีอื่นๆ

อาการของเริม
โดยรวมแล้วอาการของเริมที่ปาก และเริมที่อวัยวะเพศนั้นค่อนข้างคล้ายกัน โดยจะมีตุ่มน้ำใสบริเวณที่ติดเชื้อ ได้แก่ ปาก อวัยวะเพศ ทวารหนัก บั้นท้าย หรือต้นขา มีอาการเจ็บปวด แสบที่บริเวณแผล หากเป็นการติดเชื้อครั้งแรกจะมีอาการค่อนข้างรุนแรงและหายช้า แต่ถ้าหากเป็นการติดเชื้อซ้ำ อาการจะไม่รุนแรงและหายได้เร็วกว่า
– เริมในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ในผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มักพบได้รุนแรง อาจจะเป็นแผลเรื้อรังและเกิดการอักเสบหนองลุกลาม

แนวทางรักษา: 

1. ในการรักษาโรคเริมที่มักไม่หายขาด เนื่องจากเชื้อมักจะหลบอยู่ที่ไขสันหลัง เมื่อเกิดภาวะร่างกายอ่อนแอ เครียด อาจมีอาการซ้ำได้
2. ในรายที่เพิ่งได้รับการติดเชื้อเริมครั้งแรก แพทย์อาจให้รับประทานยา Acyclovir วันละ 200 มก. ทุก 5 ชั่วโมง นาน 7-10 วัน พร้อมกับการทายาบริเวณรอยโรค อาจทำให้อาการรุนแรงลดลง และย่นระยะเวลาการหายของโรค
3. ในรายที่เป็นซ้ำ ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา ใช้ยาทาบริเวณแผล ก็จะทำให้หายได้ภายใน 2-3 วัน
4. ในรายที่ติดเชื้อรุนแรง และมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจต้องพบแพทย์ และนอนรพ. เพื่อให้ยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ เพื่อป้องกันการลุกลามรุนแรง



Related