ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) สมุนไพรพื้นบ้าน กับ 15 ประโยชน์ในทางการแพทย์และความงาม

สุขภาพ-งานวิจัย

30 กรกฎาคม 2005


ว่านหางจระเข้ หรือ หางตะเข้ หรือ ว่านไฟใหม้ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่เรารู้จักกันดี โดยมีชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า Aloe barbadensis Mill หรือ Aloe vera Inn. ในตระกูล Liliaceae มีลักษณะเป็นพืชล้มลุก ลำต้นสั้น ใบยาวแหลม อวบ และติดแน่นกับลำต้น ขอบใบมีหนามแหลม ภายในมีวุ้นใส และที่เปลือกใบมีท่อ ซึ่งทำให้น้ำยางเป็นสีดำ 

สรรพคุณว่านหางจระเข้

  1. รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก รักษารอยไหม้บนผิวได้ดี โดยสารสำคัญในส่วนของวุ้น คือ Glycoprotein 2 ชนิด ขื่อ Aloctin-A และ Aloctin-B จะช่วยลดการอักเสบ และมีฤทธิ์สมานแผล
  2. ลดการอักเสบของผิว รักษาสิวได้โดยการเอาว่านหางจระเข้มาทาบาง ๆ ที่สิวก่อนนอน 
  3. ลดการแสบผิวจากแสงแดดได้ ใครที่ผิวแสบไหม้ วุ้นจากใบว่านหางจระเข้จะช่วยบรรเทาได้เป็นอย่างดี 
  4. บำรุงดูแลเส้นผมให้เงางาม เพียงแค่นำวุ้นจากใบว่านหางมาชโลมบนเส้นผม 
  5. บำรุงผิวให้มีความชุ่มชื่น ไม่แห้งแตก เนื่องจากมีฤทธ์เย็น กระตุ้นเซลล์ผิวหนังได้ดี 
  6. บรรเทาอาหารท้องผูก เนื่องจากมีเปลือกสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ และเป็นส่วนประกอบของ ยาดำที่ใช้เป็นยาระบายในตำรับแผนไทย
  7. ควบคุมระดับน้ำตาลของผู้ป่วยเบาหวาน โดยการดื่มน้ำว่านหางจระเข้เข้มข้น 80% วันละ 2 ครั้ง ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะ 
  8. ช่วยสมานแผลในกระเพาะอาหารและรักษาอาการกรดไหลย้อน โดยการทานวุ้นว่านหางจระเข้เป็นประจำ 
  9. ใช้วุ้นจากใบในการรักษาฝ้า แบบไม่พึ่งครีมรักษาฝ้า
  10. ลดรอยแผลเป็น ให้แผลดูจางลงได้โดยการใช้วุ้นจากใบว่านหางมาทาเบา ๆ บนรอบแผล 
  11. ลดการอักเสบ แสบคันและการตกสะเก็ดจากโรคสะเก็ดเงิน โรคภูมิแพ้ผิวหนังได้ 
  12. ช่วยลดสิว สิ้วเสี้ยนบนใบหน้าได้  ใช้เนื้อวุ้นว่านหาง ผสมไข่ขาวและน้ำผึ้ง ผสมกัน มาสก์ทิ้งไว้บนหน้าประมาณ 15 นาที จะ
  13. ใบว่านหางจระเข้สามารถช่วยรักษาริดสีดวงทวาร โดยใช้เนื้อวุ้นจากใบเหลาให้เป็นปลายแหลมเล็กน้อย และนำไปแช่ตู้เย็นจนเนื้อแข็ง แล้วนำไปใช้เหน็บในช่องทวารหนัก 
  14. นำมาทำเป็นของหวานเพื่อสุขภาพคลายร้อนได้ เช่น วุ้นว่านหางจระเข้ลอยแก้ว น้ำว่านหางจระเข้สมูทตี้ ฯลฯ 
  15. ช่วยลดหน้าท้องลายหลังการคลอดลูก โดยให้นำวุ้นว่านหางมาทาบริเวณท้องเป็นประจำ 

    วิธีใช้ว่านหางจระเข้
  1. ควรเลือกต้นว่านหางจระเข้ที่มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป ให้เลือกส่วนล่างสุดเนื่องจากจะมีวุ้นมากกว่าส่วนอื่น ๆ 
  2. นำว่านหางจระเข้มาแช่เย็นก่อนการใช้จะสดชื่นมากขึ้น 
  3. ควรล้างเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้ให้สะอาดก่อนการใช้ทุกครั้ง เนื่องจากเมือกยางจากใบมีสาร Anthraquinone ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ 
  4. ไม่ควรใช้เป็นยาระบายหรือยาถ่ายในหญิงตั้งครรภ์ หญิงที่มีประจำเดือน และผู้ที่เป็นริดสีดวงทวาร 
  5. วุ้นของว่านหางจระเข้ถ้าปอกแล้วจะเก็บไว้ได้เพียง 6 ชั่วโมง ดังนั้นควรใช้ทันทีจะได้ประสิทธิภาพดีที่สุด 

Related