Vitamin C ( Ascorbic acid) : วิตามินซี มีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพและผิวพรรณ

ดูแลผิวพรรณ

26 กรกฎาคม 2005


วิตามินซี มีฤทธิ์เป็น Antioxidants ที่สำคัญตัวหนึ่ง และมีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มีความจำเป็นต่อชีวิต
หน้าที่สำคัญ คือ กำจัดอนุมูลอิสระ(Free radicle scavenger) และเป็น ปัจจัยร่วม(Cofactors) ของเอนไซม์ต่างๆ อาทิ Procollagen hydroxylase ซึ่งต้องใช้วิตามินซี ในการทำงานสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นในการทำงานของเม็ดเลือดขาว( neutrophils) ในการกำจัดเขื้อโรคอีกด้วย ซึ่งมีหลายผลงานวิจัยที่พบว่า วิตามินซีช่วยในการป้องกันและรักษาโรคไข้หวัดได้ดี

แหล่งอาหารของวิตามินซี พบมากใน ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะมาว องุ่น และ ผักใบเขียว เช่น บอคเคอรี่ แอสปารากัส คะน้า ผักบุ้ง ถูกทำลายได้ง่ายด้วยแสง ความชื้น และออกซิเจน แต่ทนความร้อนได้ดีถึง 100 องศาเซลเซียส

บทบาทสำคัญของวิตามินซี ต่อผิวพรรณดังนี้

  1. ป้องกันอันตรายจากแสงแดด UV โดยพบหลักฐานว่า ถ้าทาวิตามินซี ก่อนออกแดด สามารถลดปัญหาSun Burn ได้ และพบว่าเมื่อทาร่วมกับ วิตามินอี และ ครีมกันแดด ที่มี Oxybenzone สามารถป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้เกือบ 100 %
  2. ช่วยลดการอักเสบ ลดการเกิดสะเก็ดหนา ของโรคผิวหนังเรื้อนกวาง( Psoriasis) ได้
  3. ช่วยลดอัตราการดื้อต่อการใช้แสงแดดรักษา ในผู้ป่วยผื่นแพ้สัมผัส ( Contact allergic dermatitis)
  4. กำจัดอนุมูลอิสระ ที่เกิดจากภาวะชราของผิวหนัง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ได้มีการทดลองทาวิตามินซี ที่ใบหน้า เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นที่เป็นไม่มาก( fine wronkle ) ดีขึ้น ผิวหน้านุ่มเนียนขึ้น จึงคาดว่าจะช่วยทำให้ภาวะชราจากแสงแดด( photoageing) ดีขึ้น
  5. ใช้เป็นสารฟอกสีผิวให้ขาว ( whitening agents ) ในคนที่เป็นฝ้า กระ รอยดำ ทั้งในรูปของครีม โลชั่น สารละลาย จึงนำมาใช้ในการทาผิวหน้า และรักษาด้วยเครื่องไอออนโต
  6. ช่วยในการสมานแผล
  7. ป้องกันโรคมะเร็งผิวหนังได้

วิตามินซี ประเภท Ascorbyl palmitate สามารถละลายน้ำและไขมันได้ จึงนิยมนำมาผสมใน water cream,lotions และ Oils โดยสารนี้จะมี pH เป็นกลาง จึงไม่ระคายผิว

ได้มีการแนะนำให้รับประทานวิตามินซี ในรูปของยาเม็ดเป็นประจำ เพื่อป้องกันและรักษาภาวะทางผิวพรรณ ได้หลายอย่างตามที่กล่าวข้างต้น แต่ร่างกายปกติ ต้องการวิตามินซี ประมาณ 50- 60 มิลลิกรัมต่อวัน ทั้งชายและหญิง ( แต่ในคนที่สูบบุหรี่ อาจต้องการถึง 140 มก.ต่อวัน ) ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องรับประทานวิตามินซี มากกว่านี้ แม้จะมีหลักฐานว่า การรับประทานวิตามินซี ในระยะยาว ค่อนข้างปลอดภัย แต่ถ้ารับประทานปริมาณสูงมากๆ ติดต่อกัน อาจเกิดทำให้เกิด ระดับ Oxalate ในปัสสาวะสูง และเกิดนิ่วในไตได้ภายหลัง นอกจากนี้ ยังมีข้อดี คือ หาง่าย ราคาถูก มีผลข้างเคียงน้อย

Related