โสม (Ginseng) สมุนไพรยอดนิยม สำหรับปรับสมดุล หยิน-หยาง เพื่อสุขภาพของร่างกาย

สุขภาพ-งานวิจัย

4 สิงหาคม 2005


โสม (Ginseng) ถือเป็นพืชสมุนไพร ที่นำมาใช้ประโยชน์ต่อสุขภาพมาเป็นเวลานานตั้งแต่ครั้งโบราณกาล โดยเฉพาะชาวจีนมีความนิยมชมชอบสรรพคุณของโสมกันเป็นพิเศษ และถือเป็นวัฒนธรรมของชาวจีนในการรับประทานผลิตภัณฑ์จากโสมกันจนมาถึงปัจจุบัน

คำว่า’โสม’ จริงๆ แล้วใช้เป็นชื่อเรียกพืชหลายสกุล(Families) โดยส่วนใหญ่มักใช้เรียกพืชที่มีลักษณะของรากคล้าย ‘คน’ ว่าโสมเสมอ( ดังภาพประกอบ) แต่โสมที่มีประโยชน์และนิยมนำมาใช้ เป็นโสมในตระกูล Panax ซึ่งอยู่ในวงศ์ Araliaceae

จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สารสำคัญที่พบในโสม และมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา คือ Ginsengnoside ซึ่ง Ginsengnoside ที่สำคัญมี 2 ชนิดดังนี้

  1. Protopanaxadiol พบว่ามีฤทธิ์ในการระงับระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งทำให้เกิดสมาธิ( concentration) ถ้าเปรียบเทียบผลทางการแพทย์กับ ทางจีนโบราณ ก็เทียบได้กับ พลังหยาง (Yang) หรือผลทางพลังเย็น
  2. Protopanaxatriol พบว่ามีฤทธิ์ในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง และมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดด้วย ถ้าเปรียบเทียบผลทางการแพทย์กับ ทางจีนโบราณ ก็เทียบได้กับ พลังหยิน (Yin) หรือผลทางพลังร้อน

– โดยพบว่า Ginsengnoside ทั้งสองชนิด จะทำงานพร้อมๆ กันอย่างสมดุล ทำให้เกิดสมดุลทางธรรมชาติของร่างกาย หรือ หยิน-หยาง ตามหลักเต๋าของจีนโบราณนั่นเอง

โสมพันธุ์ที่นิยมและโด่งดัง มี 2 พันธุ์ ดังนี้

1. โสมเกาหลี หรือ โสมคน ได้จากพืชในตระกูล Panax ginseng C.A. Meyer รากโสมที่มีอายุมากกว่า 6 ปี จะมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาสูงสุด โสมเกาหลี แบ่งได้เป็น โสมแดง และโสมขาว โดยพบว่า โสมแดง จะผ่านการอบไอน้ำและความร้อนสูง เพื่อทำลายเชื้อโรคและเชื้อรา จึงมีราคาสูงกว่าโสมขาว แต่เนื่องจาก ต้องผ่านขบวนการให้ความร้อนสูง อาจทำให้คุณค่าทางอาหารบางอย่างทางธรรมชาติสูญเสียได้ แต่ก็จะปลอดเชื้อมากกว่าโสมขาว

– ส่วนผลการวิจัยของโสมเกาหลี พบว่าจะมีผลทำให้เพิ่มฮอร์โมน ACTH ( Adenocorticotrophic hormone) ซึ่งมีฤทธิ์การกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ( Adrenal gland) ซึ่งทำให้มีผลดีในผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาสเตียรอยด์เป็นประจำ ( เช่น ผู้ป่วยโรคไต ภูมิแพ้ ) ซึ่งมักจะเกิดภาวะ บกพร่องของต่อมหมวกไต และช่วยลดระดับน้ำตาลในคนไข้เบาหวานได้อย่างมีนัยสำคัญ

– มีผลงานวิจัยในประเทศญี่ปุ่น พบว่าโสมเกาหลี ยังสามารถลดอนุมูลอิสระกลุ่ม Hydroxyl ได้ส่งผลให้ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง หรือความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ได้

2. โสมอเมริกัน (Panax quinquefolism) ได้จากพืชในตระกูล Panax quinquefolism ซึ่งมีสรรพคุณใกล้เคียงกับโสมเกาหลี โดยจะมี Ginsengnoside ชนิด Protopanaxatriol ที่มีฤทธิ์ทางพลังหยิน ใช้กระตุ้นในอัตราส่วนที่สูง จึงนิยมใช้ในกลุ่มนักกีฬา และยังทำให้สุขภาพดีโดยรวมคล้ายกับโสมเกาหลีเช่นกัน

สรรพคุณโดยรวมของโสมพันธุ์ Panax 

  1. ลดภาวะความเครียด และภาวะวิตกกังวล และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองต่อภาวะตึงเครียดได้
  2. เพื่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ จดจำ และลดความเสื่อมของเซลล์สมอง ในโรคอัลไซเมอร์ได้
  3. ทำให้การทำงานของระบบหลอดเลือดสมดุล ลดภาวะความดันโลหิตสูงหรือต่ำกว่าปกติ
  4. เพิ่มประสิทธิภาพของภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพหลังเจ็บป่วย หรือพักฟื้น
  5. รักษาสมดุลย์ของฮอร์โมนเพศ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง

คำแนะนำในการรับประทาน 

  1. โสมสกัดที่มีมาตรฐาน จะต้องมีปริมาณของGinsengnoside เข้มข้นที่ 4 % Ginsengnoside เพราะจะมีผลทางเภสัชวิทยาที่ดีที่สุด
  2. แนะนำให้รับประทานก่อนอาหาร 3 ชั่วโมง และห้ามรับประทานวิตามินซี หรือผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น น้ำส้มคั้น น้ำมะนาว เพราะจะไปต้านฤทธิ์ของโสมให้ลดลง
  3. ถ้ารับประทานโสม ในปริมาณที่มากเกินไป อาจก่อให้เกิดภาวะ แพ้แดด หรือความผิดปกติของผิวพรรณได้ จึงแนะนำให้พบแพทย์เมื่อพบปัญหา
โสมเกาหลี หรือ โสมคน
โสมอเมริกัน

Related