Posted on

ไข้อีสุกอีใส( Chicken pox) : ใครไม่อยากเป็น มีวัคซีนป้องกัน

โรคไข้อีสุกอีใส คืออะไร

โรคไข้อีสุกอีใส เป็นโรคตุ่มน้ำใส พบได้บ่อยในเด็กอายุระหว่าง 2-12 ปี แต่ก็พบได้ทุกช่วงอายุ ความรุนแรงของโรค ขึ้นอยู่กับภาวะภูมิต้านทานของร่างกาย จำนวนเชื้อที่ได้รับ เกิดจากเชื้อไวรัส Varicella Zoster
อาการ เริ่มต้น ด้วยการมีไข้ ปวดเมื่อยตามร่างกาย แล้วเกิดตุ่มน้ำขึ้นบริเวณร่างกาย โดยมักเกิดที่ใบหน้า ตามลำตัว ทรวงอก และแพร่กระจายไปตามร่างกาย
โดยภายใน 2-3 วันหลังมีไข้ต่ำๆ ตุ่มน้ำใสระยะแรก จะเริ่มเกิดขึ้น ผนังจะบาง ตุ่มจะใสและมีรอยแดงตรงกลาง หลังจากนั้นตุ่มจะโตขึ้น เป็นตุ่มสีขาวขุ่น หรือเป็นหนอง มักมีรอยบุ๋มตรงกลาง และหลังจากนั้นจะเริ่มแห้งเป็นสะเก็ด และหายได้เอง ภายใน 7-10 วัน
– หลังจากเริ่มมีตุ่มน้ำ มีระยะติดต่อตั้งแต่วันแรก จนถึงวันที่สะเก็ดหลุด เชื้อก็ยังอยู่ในร่างกายได้อีก 2 อาทิตย์และยังสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัส ดังนั้นคนที่เป็นไข้อีสุกอีใส ควรกักตัว ไม่พบปะผู้คนอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อลดการติดต่อไปยังบุคคลอื่น

วัคซีนป้องกันอีสุกอีใส

ปัจจุบันนิยมฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้อีสุกอีใส เพราะถ้าเป็นแล้ว ต้องหยุดเรียนหรือหยุดทำงานเกือบเดือน และพบว่าการเป็นโรคไข้อีสุกอีใสในวัยผู้ใหญ่ จะมีความรุนแรงมากกว่าเป็นตอนวัยเด็ก คือ ตุ่มน้ำพองใสจะมากกว่า รุนแรงกว่า และเกิดร่องรอยแผลเป็นได้มากกว่า
ในประเทศไทย ได้มีการนำวัคซีนนี้เข้ามาฉีดเพื่อป้องกัน ในปี 2538 แต่ไม่ได้ถือเป็นวัคซีนที่ต้องฉีดทุกคน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน และสามารถให้แพทย์ตามรพ.และคลินิกจัดฉีดให้ได้

ข้อควรรู้ในการฉีดวัคซีน 

  1. เด็กอายุตั้งแต่ 12-18 เดือน จนถึงอายุ 13 ปี แนะนำให้ฉีด 1 เข็ม ขนาด 0.5 ซีซี โดยอาจให้ร่วมกับวัคซีนป้องกันโรคหัด หัดเยอรมัน คางทูม ( MMR) หรือสามารถจะฉีดวัคซีนในช่วงใดก็ได้ ถ้ายังไม่เคยเป็นไข้อีสุกอีใสมาก่อน
  2. เด็กที่มีอายุมากกว่า 13 ปี หรือผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นโรคนี้ แนะนำให้ฉีด 2 ครั้ง ห่างกัน 4-8 สัปดาห์
  3. หลังฉีดวัคซีน สามารถป้องกันโรคนี้ ได้ถึง ร้อยละ 94-100 ในเด็กปกติ และในผู้ใหญ่ จะป้องกันโรคนี้ได้ถึงร้อยละ 80
  4. ค่าใช้จ่ายในการฉีดต่อครั้ง ประมาณ 1,250 บาทต่อเข็ม ( ราคาทุน ของวัคซีนประมาณ 800 กว่าบาท )
  5. ไม่แนะนำ หรือห้ามฉีดในคนที่มีประวัติแพ้ยา neomycin หญิงมีครรภ์ และให้นมบุตร ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจทำให้เกิดโรคนี้ได้ แทนที่จะป้องกันโรค