Posted on

LipoLift-Silk : ร้อยไหมละลายไขมัน ยกกระชับผิว สาวๆ ที่มีปัญหา “แก้มใหญ่ หน้ากลม หน้าห้อย”

Lipolift-Silk คืออะไร?

Liposilk เป็นการสอดไหมผลึกคลิสตัล เข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อสลายไขมันส่วนเกิน  ช่วยลดไขมันในบริเวณที่ไม่ต้องการ  และยังช่วยยกระชับผิว ลดการหย่อนคล้อย  เห็นผลทันทีหลังทำ
Lipolift-Silk  กำจัดไขมันได้อย่างไร?
Liposilk เมื่อถูกร้อยเข้าไปในชั้นไขมัน เส้นไหมที่ประกอบผลึกตัวยที่สกัดจากธรรมชาติ (ผ่านอ.ย.แล้ว) อันได้แก่ Guarana Extract,Glycerin,Ruscus aculratus extract,Hedera helix Extract(Ivy) ,Lamina digitata extract( Wakamine)  จะทำหน้าที่ละลายไขมัน โดยใฃัหลักการ Homeopathy ปรับสมดุลย์ไขมันในร่างกาย ผลึกคริสตัลจะค่อยๆ ละลายตัวยาออกมาสลายไขมัน ให้เป็นกรดไขมัน แล้วจะถูกขับออกทางระบบน้ำเหลือง
Lipolift-Silkเหมือนกันหรือต่างกับ Mesofat อย่างไร ?
Liposilk หลักการทำงานคล้ายกับการทำ Mesofat แต่ต่างกันที่ เมโสแฟตคือฉีดยาที่เป็นของเหลวเข้าไปในชั้นไขมันหลายๆ จุด ทั่วบริเวณที่ต้องการรักษา แต่ Liposilk จะเป็นการสอดวางเส้นไหมตามจุดที่เหมาะสม โดยจำนวนเส้นไหม จะแตกต่างกันแล้วแต่ละคน ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ ข้อดีของ Liposilk  คือจะไม่มีรอยช้ำหรือเจ็บแสบๆ หน่วงๆ เหมือนเมโสแฟต จำนวนครั้งในการทำน้อยกว่า และทำทุก 2-3 อาทิตย์ ทำให้ประหยัดเวลา

บริเวณใดบ้างที่สามารถทำการรักษาด้วย Lipolift-Silk ได้ ?

ทำได้ทุกบริเวณที่มีไขมันสะสม ได้แก่ แก้มเพื่อปรับหน้าวีเชฟ เหนียง หน้าท้อง ต้นขาด้านนอก ต้นขาด้านใน ต้นแขน หลัง เอว เป็นต้น
ความรู้สึกขณะทำการรักษาด้วย Lipolift-Silk เป็นอย่างไร?
ก่อนการสอดไหม Liposilk  จะประคบน้ำแข็งให้ชา แล้วค่อยๆ สอดเส้นไหม ผ่านเข็มนำร่องเข้าไป  หลังทำแทบจะไม่เจ็บเลย หลังทำไม่มีอาการบวม แดง มีรอยช้ำ
จำนวนและระยะห่างระหว่างสอดไหมละลายไขมันด้วย Lipolift-Silk  ?
ระยะห่างระหว่างการรักษาแต่ละครั้งประมาณ 2-3 สัปดาห์
ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
หลังทำเห็นผลชัดเจนทันทีก่อนว่ายกกระชับขึ้น เมื่อเทียบกับอีกข้างที่ยังไม่ทำ ส่วนระยะเวลาในการลดไขมัน จะเห็นได้ว่าความหนาของชั้นไขมันลดลง หลังการรักษาประมาณสัปดาห์ที่ 2-3  และความหนาของชั้นไขมันและ Cellulite สามารถลดลงได้อีกหากทำการรักษาต่อเนื่อง

ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรหลังการฉีด Lipolift-silk ?
หลังทำ 3-4 วัน ควรนวดบริเวณที่สอดไหม เพื่อให้ผลึกไหมละลายได้ดีขึ้น  ดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 2 ลิตร 2 วันหลังทำ และเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้น การควบคุมอาหารและการออกกำลังกายยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันมิให้ไขมันกลับมาสะสมได้ใหม่
ผลข้างเคียงจากการทำการรักษาด้วย Lipolift-silk ?
เนื่องจาก Liposilk ประกอบด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเป็นหลัก จึงไม่พบข้างเคียงที่เป็นอันตราย อาจจะคลำได้เส้นไหมบางครั้ง ถ้าใส่ตื้นเกินไป หรือในบางตำแหน่งที่ผิวบาง แต่ผลึกเส้นไหมละลายไขมันจะค่อยๆ หายไปเอง ไม่เหลือตกค้างในร่างกาย
ข้อห้ามในการทำ Lipolift-silk  มีดังนี้
– สตรีมีครรภ์
– คนไข้โรคเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ
– คนไข้ที่มีประวัติโรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เช่น เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน
– คนไข้ที่มีประวัติโรคเลือดผิดปกติ โรคมะเร็ง