Posted on

ขั้นตอนการเกิดสิว (Acne Vulgaris) แต่ละชนิด มีสาเหตุจากอะไร จะป้องกันอย่างไรไม่เป็นสิว

สาเหตุของการเกิดสิว

  1. ท่อไขมันผิดปกติ : ปัญหานี้พบได้บ่อยในสิวที่เป็นเรื่องรัง เป็นๆ หายๆ มักจะเกิดจากการไปกดสิว บีบสิว จนท่อไขมันอักเสบเรื้อรัง ทำให้ไขมันระบายออกไม่ดี เกิดการอุดตัน
  2. ฮอร์โมนเพศ โดยเฉพาะ ฮอร์โมนเพศชายสูง จะทำให้ร่างกายหลั่งไขมันมากผิดปกติ จึงก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย ถ้าระบายไขมันออกมาไม่ดีพอ
  3. ผิวแพ้ง่าย( Sensitive skin) ก็ทำให้เกิดอาการระคายเคือง มักพบเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้บ่อยเช่นกัน
  4. ความผิดปกติของการลอกผิวในท่อขุมขนเอง แล้วทำให้เกิดการอุดตัน
  5. สิวจากเครื่องสำอาง(Acne cosmetica) มักเกิดจากการใช้เครื่องสำอางบางชนิด แล้วเกิดอาการแพ้
  6. สิวจากแสงแดด(Actinic acne) เกิดได้ในบางคนที่เมื่อตากแดด จะเกิดสิวลักษณะเป็นตุ่มแดงอักเสบ เข้าใจว่าเกิดจาก แสงอุตราไวโอเลต ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการสร้างเซลล์ในท่อไขมัน
  7. สิวจากสเตียรอยด์ หรือยาบางชนิด อาหารเสริมที่มีฮอรโมนผสม เช่น อาหารสำหรับนักเพาะกาย
  8. ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ
  9. โรคบางอย่าง ที่ทำให้ฮอรโมนเปลี่ยนแปลง เช่น เนื้องอกในรังไข่ วัยหมดประจำเดือน
ขั้นตอนการเกิดสิว

ขั้นตอนการเกิดสิว
– ปกติ ร่างกายจะผลิตไขมันจากต่อมไขมัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นกับผิว โดยปริมาณไขมันที่ผลิตออกมา มากน้อย ขึ้นอยู่กับระดับฮอรโมนเพศชายเป็นหลัก แต่ถ้าท่อไขมันระบายได้ดี ไม่เกิดการอุดตัน ก็จะมีเฉพาะผิวมันง่าย แต่ถ้าเกิดการอุดตันของต่อมไขมัน จากสาเหตุต่างๆ ก็จะทำให้เกิดการอุดตัน เกิดเป็นสิวขึ้น โดยมีลำดับการเกิดดังนี้
หน้ามัน > ท่อไขมันอุดตัน ระบายไขมันไม่ดี > สิวอุดตันหัวขาวหรือหัวปิด > ถ้าไขมันอุดตันสะสมมากขึ้น ก็จะดันให้รูขุมขนเกิด ไขมันเจอออกซิเจน เกิดออกซิไดซ์ให้เกิดเป้นสิวหัวดำ > ถ้าติดเชื้อแบคทีเรีย ก็ทำให้เกิดการออักเสบเป็นสิวอักเสบ

แนวทางการปฏิบัติสำหรับการป้องกันการเกิดสิว

  1. ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า เช่น สบู่ เจล โฟม ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวมัน และมีตัวยาป้องกันการเกิดสิว
  2. เครื่องสำอาง ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม สารดีทอร์เจ้นท์
  3. หลีกเลี่ยงการเช็ดหน้า หรือ นวดหน้าแรงๆ
  4. หน้ามันมาก อาจต้องใช้โลชั่นเช็ดหน้า หรือใช้ยารับประทานกลุ่ม Retionoids หรือ ยาคุมกำเนิดกลุ่ม Dian-35 เพื่อลดหน้ามัน /font>
  5. เลือกครีมกันแดด SPF ประมาณ 15 เพื่อป้องกันความมันของเนื้อครีม
  6. ครีมบำรุง เลือกที่ไม่มีส่วนผสมของ น้ำมัน และไม่ควรมัน ไม่มีฮอร์โมนผสมในครีมบำรุง
  7. ครีมแก้แพ้ หรือ สบู่ล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผิวแพ้ง่าย( Sensitive skin)
  8. งดอาหารที่ทำให้เกิดสิวง่าย เช่น อาหารมัน อาหารรสจัด ทุเรียน ขนมหวาน ไอสครีม
  9. พักผ่อนให้เพียงพอ
  10. ไม่เครียด
  11. ห้ามกด หรือ บีบสิวเอง กรณีที่เกิดสิ
Posted on

Hair Cycle : โกนผม ผมดกขึ้นกว่าเดิม ? ผมร่วง เมื่อไหร่ เส้นผมใหม่ ถึงจะงอก และยาวเหมือนเดิม

โกนผมแล้วผมจะดกขึ้นมั้ย

– การโกนผมแล้วเส้นผมจะขึ้นไว จะได้ผลแค่ช่วงเด็กเท่านั้น  เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเสริมสร้างร่างกาย เมื่อเราโกนผมเซลล์รากผมถูกกระทบกระเทือน ร่างกายจะต้องเร่งซ่อมแซมในส่วนนั้น
– แต่ถ้าเมื่ออายุมากขึ้นในช่วงประมาณ 20 ปีเป็นต้นไป หากมีเหตุการณ์อะไร ที่ต้องทำให้โกนผมเส้นผม เช่นจากอุบัติเหตุ หรือ กรณีที่ต้องบวชพระ บวชเณร บวชชี เส้นผมอาจจะไม่ได้ขึ้นมารวดเร็วหรือไม่แข็งแรงเท่าตอนเด็ก ยิ่งในบางคนที่มีประวัติผมร่วงผมบาง จากกรรมพันธุ์หรือฮอร์โมน DHT สูง อาจจะยิ่งทำให้เส้นผมขึ้นมาช้ากว่าปกติได้อีก
วิวัฒนาการการเติบโตของเส้นผม
-ต่อมขน(Hair Follicle) เริ่มเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนที่ 2 และต้นเดือนที่ 3 ขอวการตั้งครรภ์ ผมชุดแรกที่เกิดในครรภ์เรียกว่า Lanugo Hair ปกติจะหลุดร่วงไป 3-4 อาทิตย์ก่อนคลอด
เส้นผมที่เกิดขึ้นมาใหม่จะแบ่งเป็น
1. ขนเส้นอ่อน (Vellus hair) ซึ่งได้แก่ เส้นผมที่ขึ้นใหม่ ช่วง 2-3 อาทิตย์แรก จะเส้นอ่อน มีความยาวไม่เกิน 2 เซ็นติเมตร, มักจะไม่มีสี และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 30 ไมครอน ไม่มีสี
2. Terminal Hair คือ ขนที่มีลักษณะเป็นเส้นใหญ่ มีความหยาบและยาวกว่า เวลลัส (Vellus hair), มีแกนผม(Medulla), มีสี, และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 60 ไมครอน ซึ่งกว้างที่สุดเมื่อเทียบกับผมทั้ง 3 ประเภท เมื่อย่างเข้าสู่วัยรุ่น เทอร์มินัล (Terminal hair) จะแยกเป็นอีก 2 ประเภท คือ Asexual hair และ Sexual hair
2.1 Asexual Hair. ได้แก่ ผมที่ศรีษะ คิ้ว ขนตา แขน ขา ในบางคน
2.2 Sexual Hair. ได้แก่ ขนในวัยหนุ่มสาว บริเวณหัวหน่าว รักแร้ หนวด เครา และหน้าอก

วงจรการเจริญเติบโตและการงอกของเส้นผม

วงจรในการเจริญเติบโต มีดังนี้
ระยะที่ 1. Anagen เส้นผมจะมีสีเข้ม และหนาที่สุด เส้นผมบริเวณหนังศรีษะ ร้อยละ 85-90 จะอยู่ในระยะนี้ และกินเวลาประมาณ 2-6 ปี ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2
ระยะที่ 2 Catagen เส้นผมจะเริ่มเลื่อนชั้นขึ้นมา สีผมเริ่มจางลง พบได้ร้อยละ 1 กินเวลา ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 3
ระยะที่ 3 Telogen เส้นผมจะหยุดการเจริญเติบโตและเลื่อนตัวขึ้นไป จนเลยช่องเปิดของต่อมไขมันพบได้ประมาณ ร้อยละ 10-15 ฃม. ระยะนี้กินเวลาประมาณ 3 เดือน ก็จะหลุดไป
อัตราการงอกของเส้นผม
ด้มีคำถามกันบ่อยๆ ว่า “ผมร่วง เมื่อไหร่ เส้นผมใหม่ ถึงจะงอก และยาวเหมือนเดิม” สรุปดังนี้ พบว่าอัตราการงอกของเส้นผมแตกต่างกันดังนี้
– บริเวณกลางกระหม่อม ประมาณ 0.44 มม.ต่อวัน
– บริเวณขมับประมาณ 0.39 มมต่อวัน
สรุป กรณีโกนผม ผมใหม่จะงอกขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 0.8-1.0 ซม.ต่อเดือน ส่วนกรณีปลูกผม ผมจะขึ้นใหม่ และโตเต็มที่ ใช้เวลา 2 ปี และพบว่าผมบนหนังศีรษะคนปกติมีประมาณ 100,000 เส้น และ ถ้าร่วงไม่เกิน 100 เส้นต่อวัน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ดังนั้นการที่มีบางคนแอบอ้างถึงการใช้โลชั่น หรือยาเร่งให้ผมและขนยาวเร็วกว่านี้ จึงไม่สามารถทำได้ แม้แต่การสระผมบ่อยๆ ก็ไม่ได้ทำให้ผมยาวขึ้นแต่อย่างใด ดังนั้นอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณาใดๆ เกี่ยวกับการทำให้ผมยาวเร็วกว่า อัตราที่กำหนดข้างบน

Posted on

กระเจี๊ยบแดง (Roselle) : สมุนไพรไทย ในรูปแบบเครื่องดื่ม อาหาร พร้อมสรรพคุณทางยารักษาโรค

กระเจี๊ยบแดง เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย โดยได้นำมาทำน้ำดื่มเนื่องจากมีรสเปรี้ยว สีสวย และมีวิตามินซีสูง และประกอบด้วย สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin)
สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) เป็นสารสีแดงในกลุ่มเดียวกับที่พบในผลไม้อย่างบลูเบอร์รี แต่กระเจี๊ยบแดงจะมีสารชนิดนี้มากกว่าบลูเบอร์รีถึง 50% โดยมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ช่วยป้องกันหวัด และช่วยให้เส้นเลือดอ่อนนิ่มได้

สำหรับยาไทย ได้นำผลกระเจี๊ยบ( หรือที่เรียกว่าดอกกระเจี๊ยบ) มาชงเป็นชาดื่มเพื่อขับปัสสาวะ หรือรักษานิ่ว

นายแพทย์วีระสิงห์ เมืองมั่น แห่งโรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เคยนำมาทดลองใช้ในผู้ป่วย โดยได้นำผลกระเจี๊ยบแห้ง 3 กลีบ ชงในน้ำเดือด 1 ถ้วย หรือ น้ำร้อน 300 มล. แล้วให้ดื่มวันละ 3 แก้ว พบว่าขับปัสสาวะได้ดี

นอกจากนี้ได้มีการทดลองพบว่า ผู้ป่วยหลังผ่าตัดนิ่ว ดื่มน้ำกระเจี๊ยบ พบว่าผู้ป่วย 20 ราย ปัสสาวะใสขึ้น และเป็นกรด ซึ่งได้ผลดีในการรักษานิ่วหลังผ่าตัด และอีกการทดลอง พบว่าได้ผลในการรักษาผู้ป่วย ที่ติดเชื่อในระบบปัสสาวะ ถึงร้อยละ 80 ( จากคนป่วยที่ร่วมการทดลอง 50 ราย)

จากประโยชน์ดังกล่าว การที่มีโอกาสได้ดื่มน้ำกระเจี๊ยบเป็นประจำ จึงช่วยในการขับถ่ายปัสสาวะ และป้องกันการติดเชื้อ และโรคนิ่วได้อีกทางหนึ่งทีเดียว

Posted on

หน้าโทรม ดื่มหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ จะฟื้นฟูผิวพรรณด้วยตนเองอย่างไร ให้ดีขึ้น

เมาค้าง อ่อนเพลีย :
สิ่งแรกที่อยากแนะนำให้ทำทันทีหลังตื่นนอน ก็คือ การดื่มน้ำสะอาด เย็นจัด 1-2 แก้วใหญ่ เพื่อลดล้างพิษอัลกอฮอร์ในกระแสเลือด
ถ้ายังรู้สึกเพลีย ก็ต่อด้วยน้ำผลไม้คั้นสดๆ เย็นจัด อีกสักแก้ว เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่กระแสเลือด ซึ่งจะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นทันที
และในระหว่างวัน ควรดื่มน้ำมากๆ เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ถ้ายังปวดศีรษะอยู่มาก การรับประทานยาแก้ปวด เช่น Paracetamol( 500 มก.) 1-2 เม็ด ก็ช่วยให้ดีขึ้นได้เร็วเช่นกัน
ริมฝีปากแห้ง ลอกเป็นขุย:
เกิดได้จากการขาดน้ำ วิธีที่ควรทำทันที ก็คือ การนวดริมฝีปากด้วยวาสลิน หรือ ลิปกรอส สัก 1 นาที จากนั้นใช้แปรงสีฟันถูเบาๆเป็นวงกลม เพื่อให้หนังที่ลอกเป็นขุยหลุดออก แล้วทาวาสลิน หรือลิปกรอสอีกครั้ง เพื่อคงความชุ่มชื้นไว้

หน้าบวม ตาบวม :
อัลกอฮอร์อาจมีฤทธิ์ทำให้เพิ่มน้ำตาลในเลือด ในชั้นเซลล์ใต้ผิว ทำให้เซลล์ต่างๆ ทำงานหนักขึ้น และกักเก็บของเสียเอาไว้มากขึ้น จึงเกิดภาวะกักน้ำในเซลล์ ทำให้เกิดอาการบวมได้
แนวทางแก้ไข ก็คือ หลังตื่นนอนแล้ว ควรทำกิจกรรมอะไรก็ได้ ที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ เช่น การวิ่งหรือเดินเร็วๆ อย่างน้อย 10 นาที เพื่อเป็นการเปิดรูขุมขนให้มีเหงื่อ และทำให้น้ำในเซลล์เกิดการไหลเวียน และขับถ่ายออกไป ในส่วนของดวงตา
ควรใช้ผ้าห่อน้ำแข็ง หรือถุงชาแช่เย็น นำมาวางไว้บนเปลือกตา ทิ้งไว้ 10-15 นาที สารเทนนินในใบชา โดยเฉพาะชาคาโมมายด์ จะช่วยลดการบวมน้ำได้ดี
ผิวหน้าแห้ง รูขุมขนกว้าง:
หลังล้างหน้าด้วยน้ำเย็นแล้ว ใช้ครีมบำรุง หรือ มาสต์ที่ให้ความชุ่มชื้น( Hydration mask ,Moituriser mask) ทาทั่วหน้าให้ทั่ว ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เพื่อกระชับรูขุมขน แล้วทาครีมบำรุงซ้ำอีกครั้ง
หน้าซีดเซียว ไม่เปล่งปลั่ง:
ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น แล้วตามด้วยน้ำเย็นทันที เพื่อให้ความสดชื่นกลับคืนมา ใช้แตงกวาฝานบางๆ ถ้าแตงกวาที่แช่ในตู้เย็นไว้แล้วยิ่งดี แล้ววางไว้ทั่วหน้า 10-15 นาที จะลดอาการตาบวม คล้ำได้ด้วย กรณีในผู้หญิงถ้าต้องแต่งหน้า ให้เลี่ยงบลัชออนแบบฝุ่น เพราะจะทำให้ผิวดูแห้งมากขึ้น แล้วเปลี่ยนมาใช้บรัชออนแบบครีมแทน เพื่อให้ความชุ่มชื้น แล้วทาครีมบำรุงอีกครั้ง