Posted on

Minoxidil Lotion (ไมนอกซิดิล) : ส่วนประกอบสำคัญ ในเซรั่มหรือโลชั่นปลูกผม ปลูกคิ้ว หนวด เครา ให้ดกดำ

Minoxidil (ไมนอกซิดิล) คืออะไร

ไมนอกซิดิล เดิมคือ ยาลดความดันโลหิต นำมารักษาคนไข้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง แต่พบว่ามีผลทำให้เส้นผมดกดำขึ้นได้ จึงเกิดการพัฒนาเป็นสารที่สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เป็นเซรั่มหรือโลชั่นปลูกผม ในปัจจุบัน
กลไกการออกฤทธิ์ : ยังไม่ทราบแน่ชัด ตามสมมุติฐานเชื่อว่า Minoxidil มีฤทธิ์ในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตตรงกระเปาะผม จึงเพิ่มสารอาหารแก่เซลล์ผม ทำให้เซลล์ผมเกิดการแบ่งตัวเจริญเติบโตขึ้น ผมจึงมีการเปลี่ยนแปลงจากผมหรือขนเล็กๆ( vellus hair ) เป็นเส้นผม-ขนที่โตขึ้น ที่เรียกว่า terminal hair นอกจากนี้ยังเชื่อว่ายังออกฤทธิ์ในการยับยั้งอิทธิพลของฮอร์โมน Prostaglandin ที่เกี่ยวข้องกับวงจรชีวิตของเส้นผม
เห็นผลเมื่อไหร่ การได้ผลหลังจากทายาที่ผสม minoxidil ในแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ปกติจะประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสาร minoxidil ตัวทำละลาย และส่วนผสมอื่นๆ เช่น วิตามินเอสำหรับเส้นผม ( เพื่อช่วยให้การดูดซึมของยาminoxidil ดีขึ้น ) นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่่นด้วยเช่น เป็นมานานแค่ไหน ความรุนแรงของอาการผมร่วงในแต่ละบุคคลด้วย

ประโยชน์ของยาทาไมนอกซิดิล

1. ยาทาภายนอก minoxidil สามารถใช้ทาให้เส้นผมดำดกดำขึ้นได้ โดยสามารถรักษาเปัญหาผมร่วงได้ทุกสาเหตุ ไม่ว่าจะจากกรรมพันธุ์ ฮอร์โมน DHT หรือปัญหาผมร่วงหย่อม( Alopecia areata) นอกจากนี้ยังใช้ป้องกันการหลุดร่วงของเส้นผมในคนที่กำลังจะศีรษะล้านได้ด้วย
2. นำมาพัฒนาเป็นโลชั่น หรือเซรั่ม สำหรับปลูกขนคิ้ว ขนตา หนวเครา ขนตามลำตัว ได้ด้วย
ข้อควรระวัง: ถ้าโลชั่นที่ผสมไมนอกซิดิล ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป อาจจะมีผลเหมือนกับการรับประทานยาลดความดัน ไมนอกซิดิล จึงอาจจะมีอาการมึนงง ความดันโลหิตต่ำได้ ทำให้หน้ามืด วิงเวียนได้ง่าย นอกจากนี้ อาจมีผลต่อหัวใจในระยะยาวด้วย ดังนั้น ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
ระยะเวลาในการใช้ การใช้ยาทา Minoxidil ปลูกผม หรือขน หนวดเครา เมื่อเลิกใช้ เส้นผมและขน อาจจะกลับมาร่วงได้อีก ประมาณ 3 เดือนหลังหยุดยา ดังนั้นจึงควรรับประทานยากลุ่มลดฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุของผมร่วง เช่น Finasteride,Dutasteride ในการป้องกันการกลับมาร่วงใหม่ของเส้นผมร่วมไปด้วย ในรายที่ไม่สามารถ รับประทานยา Finasteride ได้  เช่น สตรีมีครรภ์ หรือมีผลข้างเคียง นกเขาไม่ขันจากการรับประทานยา Finasteride อาจจะเปลี่ยนมาใช้  Finasteride Lotion ทดแทน ซึ่งได้มีผลิตออกมาจำหน่ายแล้ว  

ยาทาไมนอกซิดิล ปลูกผม
ยาทาไมนอกซิดิล ปลูกหนวดเครา
Posted on

Finasteride : ยารับประทาน เพื่อหยุดผมร่วง สร้างผมใหม่ แก้ไขศีรษะล้าน ให้กลับมาดกดำ

Finasteride คือยาอะไร

-ปัญหาศรีษะล้าน มีสาเหตุการเกิดได้หลายอย่าง แต่สาเหตุใหญ่ๆที่พบในปัจจุบัน คือปัญหาผมร่วง ศีรษะล้านจากปัญหาฮอร์โมนเพศ ชื่อ Dihydrotesterone(DHT) สูงกว่าปกติ แล้วไปทำให้รบกวนการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ เส้นผมมีขนาดเล็กลง และวงจรชีวิตของเส้นผมสั้นลง อัตราผมร่วง > ผมขึ้นใหม่ ทำให้ผมค่อยๆบางลง จนดูโล่งเตียน นอกจากนี้ยังทำให้ ปริมาณผมใหม่ งอกได้ไม่เป็นปกติ ทั้งจำนวนและขนาดที่เล็กลง
Finasteride (Propecia) เป็นสารสังเคราะห์ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้ง เอนไซม์ 5-Alpha reductase   ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเพศชาย testosterone เป็น DHT จึงทำให้ระดับ DHT ลดลงในกระแสโลหิต ยับยั้งอัตราการทำลายเส้นผม ผมจึงหยุดร่วง และดกดำได้ดังเดิม  โดยได้รับการยอมรับจาก FDA ของอเมริกาและไทย ว่าช่วยลดปัญหาผมร่วงได้จริง เห็นผลภายใน 3-6 เดือน

ข้อควรระวัง

ข้อควรระวังและผลงานวิจัยที่ได้จากการรับประทานยา Finasteride (Propecia)
1. เอนไซม์ของตับผิดปกติได้ (Abnormal SGPT/SGOT) 
2. รับประทานยาเกิน 1 ปี พบว่า สมรรถภาพทางเพศลดลง 3.7 % เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ทาน ซึ่งเกิดได้ ประมาณ 2.1%  ดังนั้นจึงถือว่ามีผลข้างเคียงน้อยมาก หรือไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
3. ทำให้ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก มีการคลาดเคลื่อนได้ โดยพบว่าจะทำให้ระดับ PSA level ซึ่งเป็นตัวชี้วัดมะเร็งต่อมลูกหมากอาจจะมีค่าต่ำกว่าความเป็นจริงได้ 50%  ดังนั้นก็ควรจะตรวจเช็คเป็นประจำทุกปี สำหรับคนที่รับประทานยาตัวนี้ โดยเฉพาะเมื่ออายุเกิน 50 ปี
4. ยา Finasteride ไม่มีผลต่อจำนวนเชื้ออสุจิ สามารถจะมีบุตรได้ปกติ แม้ในช่วงที่รับประทานยาอยู่ หรือไม่มีผลต่อทารกในครรภ์ เพราะยา Finasteride จะไม่ผ่านทางน้ำอสุจิไปยังภรรยา มีเพียงส่วนน้อยมากที่มีผลต่อปริมาณน้ำเชื้ออสุจิ
5. ยา Finasteride ไม่่มีผลต่อการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้ชาย แต่ถ้าในระหว่างที่รับประทาน ยา Finasteride ถ้าเกิดมีปัญหาพบก้อนในหน้าอก ผิดปกติ ก็ควรต้องพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเช่นกัน

ข้อห้ามใช้

ยา Finasterideไม่แนะนำให้ใช้ในผู้หญิงที่มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ หรือเตรียมตั้งครรภ์ เพราะยานี้จะทำให้เกิดความผิดปกติ หรือพัฒนาการของอวัยวะเพศของทารกได้ ส่วนการเลือกใช้ยาตัวไหนในการรักษาผมร่วงจาก DHT สูง แนะนำให้พบแพทย์ด้านเส้นผม เพื่อปรึกษาข้อดี-ข้อเสีย และการเลือกใช้

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้นจะเห็นว่า การรักษาผมร่วง ควรจะรักษาแบบผสมผสาน ทั้งการใช้ยารับประทานแก้สาเหตุของผมร่วง ในรูปแบบของยารับประทาน (Finasteride )  ควบคู่กับการฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาดกดำมากขึ้น ด้วยใช้ยาทา จำพวก Minoxidil ซึ่งมีฤทธิ์เพิ่มจำนวนเส้นผม  การรับประทานวิตามินสำหรับบำรุงเส้นผม หรืออาจจะเสริมด้วยการทำเลเซอร์ปลูกผม (Low Level Laser Therapy:HAIRMAX) เพื่อให้ออกซิเจนกับเส้นผม หรือการทำเมโสปลูกผม(Mesotherapy)  จึงจะทำให้ผลการรักษาครอบคลุมครบวงจร และควรจะทำการรักษาต่อเนื่อง และพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมเท่านั้น ไม่ควรจะซื้อยามาทำการรักษาเอง เพราะการรักษาอาจจะมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ถ้าพบแพทย์สม่ำเสมอ ยังสามารถจะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที

Posted on

Dyshidrosis : โรคผิวหนังอักเสบ ตุ่มน้ำใสที่มือ คันมืออย่างมาก รักษาอย่างไร

โรคตุ่มน้ำใสที่มือ(Dyshidrosis)

เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากภาวะที่ต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ มีอาการเป็นๆ หายๆ และทำให้คันได้มากพอควร มักจะพบตามนิ้วมือ และซอกนิ้วเท้า
สาเหตุ ไม่ทราบแน่ชัด แต่มักเกิดในคนที่ทำงานบ้าน เช่น ซักผ้า ล้างจาน จึงเชื่อว่าอาจเกิดจากการแพ้ผงซักฟอก หรือน้ำยาล้างจาน เกิดในคนที่เครียดบ่อยๆ หรือ คนที่เหงื่อออกมากตามมือและเท้า
อาการ เริ่มแรกของโรคนี้ ก็คือ การที่มีตุ่มน้ำ และมีสะเก็ดลอกๆ บางๆ ที่ซอกนิ้วมือ หรือ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มักเกิดทั้งสองข้าง มีรอยแดงๆ มักจะคัน และเมื่อเกามากๆ อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน เกิดเป็นแผลพุพอง ปวดเจ็บได้ ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจเกิดตุ่มน้ำเป็นปื้นหนาได้

แนวทางการป้องกันและรักษา 

1. หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจกระตุ้นให้เกิดจากแพ้ เช่น การล้างจาน หรือ ซักผ้าควรใส่ถุงมือป้องกัน
2. แนะนำให้พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินควร
3. แนะนำให้ทำการประคบเปียก หรือแช่มือ ด้วยน้ำยา Burow’s solution หรือ ด่างทับทิมเจือจาง( Potassium permanganate solutins) เพื่อช่วยลดภาวะเหงื่อ และการชื้นแฉะ
4. กรณีที่เป็นไม่มาก การทาครีมสเตียรอยด์ ที่ออกฤทธิ์ปานกลาง ถึงรุนแรง เช่น Betnovate ,Clobetasone แล้วใช้พลาสติกหุ้ม ก็ทำให้หายได้เร็วขึ้น
5. กรณีที่เป็นมาก หรือ อาการกำเริบ แนะนำให้รับประทานยากลุ่มเสตียรอยด์ เป็นระยะเวลาสั้นๆ หรือ รับประทานยาแก้แพ้ เช่น chorpheniramine